เที่ยวเมืองเลย ธรรมชาติสรรค์สร้างเสน่ห์แห่งขุนเขา…สูงเสียดฟ้าท้าลมหนาว

หนึ่งในการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สร้างความสนุกท้าทายให้กับนักท่องเที่ยวก็คือการเที่ยวเขา การเดินเท้าที่ต้องอาศัยความคล่องตัวในการปีนป่ายบ้างในบางช่วงของการเดินทางคือเสน่ห์ และสิ่งตอบแทนที่ได้นั่นคือความภูมิใจในความพยายามและความสวยงามที่คุ้มค่ากับแรงกายที่เสียไป จังหวัดเลยถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีภูเขาหลายลูกที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวความสวยงาม ในบทความนี้จึงจะพาทุกท่านไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเลยเอาใจสายผจญภัยกันบ้าง

เดินเท้าเที่ยวภู ธรรมชาติที่รังสรรค์ความสวยงามให้บนยอดเขาสูง

                จังหวัดเลยนั้นมีภูเขาหลายลูกที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งยังคงอุดมสมบูรณ์ และสวยงามเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวยอมเหน็ดเหนื่อยเดินเท้าเพื่อพิชิตเส้นทางเดินเขาได้ตลอดปี สำหรับภูเขาที่โดดเด่นขึ้นชื่อว่าสวยงามอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยนั้นมีอยู่ 3 แห่ง ดังนี้

                1.ภูกระดึง ยอดเขาเป็นพื้นราบกว้างใหญ่ปกคลุมด้วยป่าสนสลับกับป่าก่อ ลักษณะทุ่งหญ้าคล้ายสะวันนา มีพรรณไม้ขึ้นอยู่ทั่วไป และยังมีใบเมเปิ้ลสีแดงสดเมื่อแก่เต็มที่เป็นไฮไลท์ให้ได้เก็บภาพประทับใจ อุดมพร้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งน้ำตก ลำธาร และลานหิน อากาศบนภูกระดึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาเซลเซียส และอาจถึง 0 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว การจะขึ้นไปถึงยอดภูกระดึงได้นั้น นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเดินเท้าจากตีนเขาสู่หลังเขา(หลังแป) กินระยะทางถึง 5 กม. และยังต้องเดินไปบนหลังแปที่เป็นพื้นราบอีกราว 4 กม. การเดินเท้าที่แสนทรหดอดทนแลกมาด้วยความสวยงามที่หาที่ไหนไม่ได้ทำให้หลายคนอยากไปพิชิตภูกระดึงให้ได้สักครั้งเพื่อเป็นความทรงจำที่ภาคภูมิใจ

2.ภูเรือ มีที่มาของชื่อจากของภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ ประกอบกับที่ราบบนยอดเขายังมีลักษณะคล้าย ท้องเรือ ภูเรือได้รับคำนิยามว่า “หนาวสุดในแดนสยาม” ลักษณะทางธรรมชาติที่เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อนมีรูปร่างแปลกตาสวยงาม พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนเขา สลับกับลานหินธรรมชาติ สามารถขับรถขึ้นถึงผาโหล่นน้อยและต้องเดินเท้าอีก 700 เมตร ณ ยอดภูสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามแบบ 360 องศา ทั้งแม่น้ำเหือง แม่น้ำโขง รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพตอันศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา จากยอดภูเรือยังมีเส้นทางเดินป่าให้ได้ชมความงามของพันธุ์ไม้ดอก เช่น กระเจียว กระดุมเงิน ดาวเรืองภู เปราะภู

3.ภูหินร่องกล้า กินพื้นที่รอยต่อถึงสามจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยเนื้อที่กว่า 191,875 ไร่ อันมีธรรมชาติสมบูรณ์สวยงาม แปลกตาด้วยลานหินปุ่ม และลานหินแตกที่ธรรมชาติสร้างขึ้น อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18-25 องศาเซลเซียส และสิ่งที่ภูหินร่องกล้าแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติอื่น นั่นคือการเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เมื่อครั้งการสู้รบสมัยคอมมิวนิสต์

ลงจากภูเขา เดินชิลเชียงคานสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายภายใต้ลมหนาว

                หากจะพูดแต่การผจญภัยไปบนที่สูงแล้ว ก็คงทำให้หลายคนที่คิดไปเที่ยวเลยอาจจะพับโครงการเก็บเข้าลิ้นชักไปเสียก่อน แต่อันที่จริงจังหวัดเลยยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นที่ไม่ต้องเหนื่อยขึ้นภูอีกหลายแห่งโดยเฉพาะเมืองน่าไปอย่างเชียงคาน อันจะขอยกตัวอย่างไว้สักเล็กน้อย

1.เชียงคาน เที่ยวเพลินกับบรรยากาศชุมชนซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเชียงคาน เมืองเล็กติดแม่น้ำโขง และยังสามารถเดินชิลไปบนถนนคนเดินยามค่ำคืนได้อีกด้วย

2.แก่งคุดคู้ คือแก่งน้ำขนาดใหญ่ห่างจากตัวเมืองเชียงคานเพียง 3 กม. บรรยากาศสบาย ๆ ที่มีสายลมเย็นพัดผ่าน กับความสวยงามของหาดทรายกว้างและก้อนหินกลมกลึงจำนวนมากที่ทอดตัวลงในแม่น้ำโขงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากไปถึงเชียงคานแล้วก็ควรไปสัมผัสสักครั้ง