หลักการเตรียมตัวไปเที่ยวต่างประเทศฉบับงู ๆ ปลา ๆ
ต้องยอมรับว่าการไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยถือเป็นเรื่องยอดนิยม เพราะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ไปแล้วเท่ หลายคนเมื่อจะไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรกก็จะมีอาการตื่นเต้น และหาข้อมูลอย่างใจจดใจจ่อ บางคนก็กังวลเรื่องภาษา เพราะตนเองพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีทั้ง ๆ ที่จะไปในประเทศที่คนท้องถิ่นเขาก็ไม่ได้สนใจฝึกภาษาอังกฤษกันมากนัก นั่นเป็นอาการปกติของคนที่จะได้สัมผัสอะไรใหม่ ๆ เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ไกลบ้าน ก็ไม่แปลกที่จะออกอาการกังวลถึงอะไรสักอย่าง แต่กระนั้นการได้ไปเห็นสถานที่ต่างวัฒนธรรม ต่างความคิด ต่างภาษา ก็คล้ายกับว่าเราได้ไปยังโลกอีกใบหนึ่งเลยทีเดียว เพราะต้องกินแต่อาหารที่ไม่คุ้นเคย ภาษาที่คนในสังคมใช้ก็ไม่คุ้นเคยกับหู ความจริงชาวต่างชาติเขามาเมืองไทย เขาก็ตื่นตาตื่นใจเหมือนกัน นั่นเพราะเขาได้สัมผัสความแปลกใหม่เช่นเดียวกับที่เราไปบ้านเขา (ถึงแม้จะฝึกภาษาอังกฤษมานาน แต่ถ้าลองได้ไปครั้งแรก ก็ถือเป็นแวดล้อมที่แปลกตาได้เช่นกัน) แล้วถ้าไม่มีเวลาแล้ว เดือนสองเดือนให้ฝึกภาษาก็ไม่ทันแน่ ๆ จำทำอย่างไรดี?
อันที่จริง ชาวต่างชาติไม่ได้ซีเรียสเรื่องการใช้ภาษามากนัก ยกเว้นว่าเราจะสมัครเข้าโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือทำงานที่ต้องใช้การสื่อสารค่อนข้างมากในประเทศนั้น ๆ ถ้าไปเที่ยวเฉย ๆ ภาษากายภาษามือทุกคนก็เข้าใจ เช่น เราจะสั่งอาหารสักอย่างหนึ่ง หลาย ๆ ร้านในต่างประเทศก็จัดเตรียมรูปภาพอาหารไว้ให้ลูกค้าเลือกอยู่เลือก แค่จิ้ม ๆ ว่าจะสั่งเมนูไหน หรือจะซื้อสินค้าสักอย่างหนึ่ง ก็ชี้ไปที่สิ่งที่ต้องการแล้วชูนิ้วว่าต้องการกี่ชิ้น แค่นี้ก็เป็นพื้นฐานในการท่องเที่ยวในสังคมที่เราใช้ภาษาของเขาไม่ได้แล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเตรียมตัวคือเรื่องของสภาพอากาศ บางที่หนาวมาก เผอิญต้องรอรถเมล์นานหรืออะไรก็แล้วแต่ อากาศที่เย็นและไม่คุ้นกับอุณหภูมิของคนไทยก็อาจทำให้เป็นปัญหาได้ ดังนั้นควรเลือกชุดกันหนาวที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตามต้องเช็คสภาพอากาศในช่วงที่เราจะเดินทางไป และตรวจสอบข้อห้ามของบางประเทศเอาไว้ให้ดี เช่น ประเทศญี่ปุ่นที่มีรายการยาต้องห้าม ซึ่งหากจำเป็นก็ต้องมีการขออนุญาตนำออกนอกประเทศและมีใบสั่งแพทย์ อย่างยารักษาโรคเครียด Fluoxetine เป็นต้น
ทั้งนี้ วัฒนธรรมต่างถิ่นที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคยเท่าใดนัก ยกตัวอย่างได้เช่น ห้ามต่อราคาสินค้าที่ประเทศฝรั่งเศส และที่นี่ควรกินข้าวให้หมดจานซึ่งแตกต่างกับมารยาทของประเทศจีนที่ห้ามกินข้าวหมดจาน เพราะหมายความว่าต้องการอาหารเพิ่มอีก หรือเสิร์ฟอาหารให้น้อยเกินไป และการเรอหลังการกินอาหารที่ประเทศจีนยังหมายความว่าอาหารนั้นอร่อยอีกด้วย ส่วนที่อเมริกาการให้ทิปแก่บริกรก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ถ้าไม่ให้แล้วถือว่าเสียมารยาทและไปครั้งหน้ามีสิทธิ์ได้รับบริการไม่ดี และวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวอาจเผลอได้ เช่น การห้ามชนแก้วที่ประเทศฮังการี การห้ามทำมือสัญลักษณ์ OK ในประเทศบราซิล ห้ามแบมือต่อหน้าชาวกรีก ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะที่ประเทศแคนาดา ห้ามยกนิ้วโป้งในประเทศตะวันออกกลาง ควรใช้นิ้วโป้งชี้สิ่งของแทนนิ้วชี้ในประเทศอินโดนีเซีย และห้ามไปสนทนากับผู้หญิงในประเทศซาอุดิอาระเบียบ และข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อปฏิบัติเบื้องต้นก่อนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เรื่องโป๊ะแตกเกิดขึ้นได้