ใส่บาตรข้าวเหนียว เที่ยวชิล ๆ ที่หลวงพระบาง

เชื่อว่าหลาย​ ๆ​ คนคงมีความรู้สึกที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน​ ไปพักผ่อนในที่ที่ไม่ต้องรีบร้อนทำอะไรอยู่เนือง​ ๆ​ วันนี้เรามีสถานที่ที่ไม่ไกลจากบ้านเรา​ แถมไปได้โดยไม่ต้องทำวีซ่าอย่าง​หลวงพระบางมาแนะนำ​แบบคร่าว​ ๆ​ เตรียมเปิดปฏิทินปักวันลาล่วงหน้ารอกันได้เลย

เที่ยวที่ไหนในหลวงพระบาง

หลวงพระบางขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลก​ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว​ ที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย​ ทั้งบ้านเมืองสไตล์โคโลเนียล​ สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของลาว​ที่วัดเชียงทอง ชมพระราชวังหลวงพระบางกับการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของฝั่งเศสที่รวมกับของลาวได้อย่างสวยงาม​ และอีกหลากหลายความงดงามทางศิลปะในสถานที่อื่น​ ๆ​ อีกมากมาย แน่นอนว่าหากคุณมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนหลวงพระบางแล้ว​ ก็ต้องไม่พลาดที่จะชมพระอาทิตย์ตกดิน​ นั่งชิลดูวิว​ 360 องศาที่​พระธาตุพูสี​ ไม่เพียงแต่สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น​ ที่หลวงพระบางยังคงซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน​ การดำเนินชีวิตที่ไม่รีบร้อนของคนท้องถิ่นก็ถือเป็นเสน่ห์ของที่นี่เช่นกัน​ นอกจากนั้นก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสมบูรณ์สวยงามอย่าง​น้ำตกตาดกวางสี​ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของหลวงพระบางและขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของเมืองนี้อีกด้วย
                นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและน้ำตกแล้ว​ ที่หลวงพระบางก็ยังมีสถานที่และกิจกรรมอื่น​ ๆ​ ที่ต้องไปหรือต้องทำให้ได้​ เช่น​ การแต่งกายด้วยผ้าซิ่นแบบชาวลาว​ สัมผัสวิถีชีวิตยามเช้าของคนท้องถิ่นที่ตลาดเช้า​ ใส่บาตรข้าวเหนียวพร้อมถวายจังหันพระตามประเพณีเดิม ช้อปปิ้งงานฝีมือที่ตลาดมืด

คำแนะนำในการเที่ยวหลวงพระบาง

– ในการใส่บาตรข้าวเหนียวนั้น​ ต้องแต่งตัวให้สุภาพมิดชิดทั้งหญิงและชาย​ สำรวมสงบ​ ไม่ถูกเนื้อต้องตัวหรือรบกวนพระสงฆ์​ ช่วงเวลาในการใส่บาตรคือ​ 5.00 -​6.00 น.

– ของฝากยอดนิยมจะเป็นผ้าต่าง​ ๆ​ ที่เป็นสไตล์แบบลาว​ หาซื้อได้จากร้านขายของฝากหรือตลาดมืด​ เวลาทำการของตลาดมืดคือ​ 17.00​- 22.00 น.

– การเข้าชมพระธาตุพูสี​ จะมีค่าเข้าคนละ​ 80​ บาทไทย​ โดยจะเปิดเวลา​ 6.30​ -​ 18.30​ น.

– น้ำตกตาดกวางสี​ มีค่าเข้าคนละ​ 40​ บาท​ เปิดให้เข้าชมเวลา​ 6.00​ -​ 17.30​ น.

– วัดเชียงทอง​ มีค่าเข้าคนละ​ 80​ บาท​ เปิดให้เข้าชม​ เวลา​ 6.00​ -​ 17.30​ น.

– ค่าเงินของประเทศลาวนั้นใช้เงินกีบ​ ซึ่งสามารถแลกได้ที่สนามบินหรือเคาน์เตอร์แลกเงินทั่วไป​ ทั้งนี้ทั้งนั้นร้านค้าหรือสถานที่ต่าง​ ๆ​ ก็รับทั้งเงินบาท​และดอลลาร์​ แต่ถ้าแลกเป็นกีบจะได้เรทที่คุ้มกว่า

การเดินทางไปยังหลวงพระบางนั้นไม่ได้ซับซ้อนวุ่นวาย​ เพราะมีสายการบินที่บินตรงจากทั้งกรุงเทพฯ​ และเชียงใหม่​ ไปยังสนามบินหลวงพระบาง​ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไม่นานก็สามารถได้พักผ่อนใช้ชีวิตแบบชิล​ ๆ​ กันได้อย่างเต็มที่​ ส่วนการเดินทางภายในหลวงพระบางนั้น​ สามารถ​เช่าจักรยาน​หรือมอเตอร์ไซค์ไว้เที่ยวเอง หรือถ้าใครไม่สันทัดมอเตอร์ไซค์ที่นี่ก็มีบริการเช่ารถเหมาเที่ยวเหมือนกัน​คุ้มสำหรับผู้ที่ไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ ที่สำคัญอย่าเที่ยวยาวจนเพลินโดยลืมว่าคนไทยสามารถเข้าประเทศลาวได้เพียง​ 30​ วันแบบไม่ใช้วีซ่า