เที่ยวสบายหรือเที่ยวสายลุย ทางเลือกในการพักผ่อนของคนยุคใหม่

การพักผ่อนในโรงแรมหรู ทานอาหารกลางสระน้ำที่อยู่บนชั้นด่านฟ้า หรือจะเป็นท่องเที่ยวด้วยกระเป๋าเป้สักใบแล้วขึ้นรถโดยสารหรือโบกรถที่ขับผ่านไปบนท้องถนน ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเช่นกัน แล้วการท่องเที่ยวแบบไหนน่าสนใจกว่า การเดินทางแสนสบายหรือเที่ยวสายลุยไปตามธรรมชาติ เราจะมาดูเหตุผลกันว่าข้อดีของการพักผ่อนทั้งสองแบบต่างกันอย่างไร ซึ่งรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าใช้จ่าย และการเดินทาง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ประกอบการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวอีกด้วย

เที่ยวอย่างสบายสไตล์คนนำเทรนด์

เทรนด์ในปัจจุบันที่ผู้คนมักจะเห็นตามสังคมออนไลน์ก็คือ การไปเที่ยวตามโรงแรมหรือที่พักติดทะเลและมีสระน้ำด้านบน ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ไปพร้อมกับพักผ่อนในสระ หรือจะเป็นการพักในรีสอร์ทบนเขาค้อและภูทับเบิกที่นิยมกันอย่างมากจากบรรยากาศหนาวเย็นที่หาได้อยากในประเทศไทย รวมถึงอากาศบริสุทธ์ที่แตกต่างจากในเมืองโดยสิ้นเชิง โดยข้อดีของการท่องเที่ยวลักษณะนี้ก็คือการเดินทางที่สะดวกเพราะ มักจะมีที่พักตั้งอยู่ในเขตที่มีความนิยมสูง อย่างเช่นเมืองพัทยาหรือภูเขาที่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก อย่างเขาใหญ่หรือเขาค้อนั่นเอง และรวมถึงความสะดวกในการใช้ชีวิต เพราะไม่ว่าจะเป็นในที่พักหรือบริเวณโดยรอบมักจะมีร้านอาหารอยู่เสมอ ทำให้ไม่ต้องเดินทางออกไปให้ไกลก็สามารถหาอะไรทานได้ตามสะดวก แต่สิ่งที่ต้องนำมาคิดเช่นกันก็คือค่าใช้จ่ายนั่นเอง ซึ่งที่พักในลักษณะนี้มักจะเริ่มต้นขั้นต่ำที่ 1,000 บาทไปถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว ทำให้นักท่องเที่ยวอาจจะต้องเลือกเวลาและราคาที่พักสักหน่อย หากต้องการความคุ้มค่าที่เหมาะสมของตัวเอง

เที่ยวสายลุยไปไหนไปกัน

ในทางตรงกันข้ามก็คือการไปเดินป่าหรือดำน้ำจะใช้เวลาอยู่กับที่พักน้อยมาก และปัจจัยเรื่องความสบายหรือหรูหราขอที่พักอาจจะถูกตัดออกไป โดยการเดินป่าหรือขึ้นเขานั้นมักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเหมาะสมที่สุดและไม่ร้อนเกินไปที่จะต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ซึ่งเขาที่นิยมในหมูนักปีนเขาก็คือ เขาช้างเผือกที่จังหวัดกาญจนบุรีนั่นเอง นอกจากการปีนเขาแล้ว การไปดำน้ำก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเกาะน้ำใสแถวชลบุรีอย่างเกาะแสมสาร หรือการดูปะการังในทะเลอันดามันที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกมาเป็นเวลานาน

และทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลุยมากกว่านั้นก็คือการเดินทางแบบแบกเป้ที่นิยมกันในหมู่ชาวต่างชาติ และอาศัยรถโดยสารเป็นหลักนั่นเอง สำหรับข้อดีของการท่องเที่ยวแบบนี้ก็คือการประหยัดค่าที่พัก เพราะการใช้เวลาอยู่นอกสถานที่เยอะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักเพื่อค้างคืนก็เพียงพอแล้ว แต่ความสะดวกของการเดินทางก็จะเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น เพราะภูเขาต่าง ๆ ที่อยู่ห่างไกลก็ยากที่จะหารถโดยสารไปได้ หรือแม้แต่รถส่วนตัวที่อาจจะต้องเป็นรถขนาดใหญ่เท่านั้นเพื่อจะขึ้นเขาสูงชันสักลูก รวมถึงอาหารการกินที่บางครั้งจะมีทางเลือกแค่หมูกระทะหรือการทำอาหารเอง ซึ่งก็เป็นไปตามความสะดวกของสถานที่นั้น ๆ นั่นเอง

แม้ว่าการเดินทางทั้งสองแบบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ปัจจัยสำคัญก็ขึ้นอยู่กับตัวนักท่องเที่ยวเอง ว่าต้องการจะพักผ่อนแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด โดยอาจจะคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่าย เวลาว่างที่มีและความสะดวกของการเดินทาง ไม่ว่าจะพักโรงแรมสุดหรูหรือการกางเต็นท์นอนบนทิวเขา ก็ต่างจะเป็นการพักผ่อนที่ดีสำหรับใครสักคนอย่างแน่นอน